ผลงานวิจัยเรื่องการพัฒนาเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอยจากน้ำมันของเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว ในอนุภาคไขมันระดับนาโน นั้นเป็นการต่อยอดงานวิจัยพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 5 ปี ของทีมนักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คือหัวหน้าโครงการ รศ.ดร.ภก. สุรพล นธการกิจกุล นางสาวณัฏฐิณี นันตาลิต รศ.ดร.ภญ. พาณี ศิริสะอาด รศ.ดร.ภญ. สุพร จารุมณี และ ผศ.ดร.เกียรติศักด์ พลสงคราม จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ โดย รศ.ดร.ภก. สุรพล กล่าวถึงที่มาของการวิจัยว่า
ฟักข้าวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Momordica cochinchinensis (Lour.) Spreng วงศ์ Cucurbitaceae เดิมมีถิ่นกำเนิดประเทศเอเชียเขตร้อน ในเมืองไทยมีมากในเขตภาคเหนือและภาคกลาง ซึ่งหมอพื้นบ้านใช้ภูมิปัญญาในการใช้ฟักข้าวเป็นยารักษาโรคและเป็นอาหาร ทีมวิจัยได้นำเยื่อหุ้มเมล็ดมาสกัดน้ำมัน ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และพัฒนาตำรับเครื่องสำอางชะลอความแก่โดยการทดสอบประสิทธิภาพการลดรอยเหี่ยวย่นในอาสาสมัคร และมีการเผยแพร่ในการประชุมมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 8 ในปี พ.ศ. 2550 และได้รับรางวัลผลงานวิจัยดีเด่น
รศ.ดร.สุรพล กล่าวย้ำว่า " จากผลการวิจัยครั้งนั้น สร้างกระแสบูม มีการปลูกฟักข้าวและนำมาแปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่ม เช่น น้ำผลไม้ ไอศกรีม ในระดับชุมชน นอกจากนี้ยังมีการผลิตเป็นสบู่และครีมบำรุงผิวจากฟักข้าว เป็นสินค้าระดับ OTOP และ SME อย่างไรก็ดี การผลิตเพื่อแปรรูปในระดับอุตสาหกรรมนั้นต้องมีการวางแผนการปลูกที่ดี ควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ ขั้นตอนในการแปรรูปจะต้องตรวจสอบความคงตัวและมาตรฐานสารสำคัญในฟักข้าว นอกจากนี้ต้องมีการประเมินประสิทธิผลตามมาตรฐานสากล จึงจะสามารถผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานส่งออกได้ "
ซึ่งในปัจจุบัน ตลาดเครื่องสำอางลดเลือนริ้วรอยมีการขยายตัวเพิ่มและการแข่งขันสูง
ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจากธรรมชาติที่มีจำหน่ายในท้องตลาด หากได้มีการตรวจสอบคุณภาพและประเมินประสิทธิภาพอย่างจริงจัง มักพบปัญหาเรื่องความคงตัวและการออกฤทธิ์ลดลงเมื่อเก็บผลิตภัณฑ์ไว้นาน
ทีมวิจัยจึงได้สกัดน้ำมันจากเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวมาศึกษาตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมีโดยวิธี HPLC พบว่า ลายพิมพ์นิ้วมือ ตรงกับของสารมาตรฐาน ไลโคปีนและกลุ่มเบต้าแคโรทีน ซึ่ง สารประกอบกลุ่มนี้สลายตัวได้ง่ายโดยเฉพาะเมื่ออยู่ในสภาวะที่มีแสงและอุณหภูมิสูง ดังนั้นจึงหาวิธีเพิ่มความคงตัวโดยการเตรียมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวให้อยู่ในรูปอนุภาคไขมันระดับนาโนและนำไปใส่ในตำรับครีมพื้น ซึ่งอนุภาคไขมันระดับนาโนที่เก็บกักน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวสามารถเตรียมด้วยเทคนิคการปั่นผสมที่ความดันสูง พบว่าที่ความดัน 1,000 บาร์ จำนวน 5 รอบ ได้อนุภาคที่มีลักษณะทางกายภาพที่ดีไม่เกิดการแยกชั้น เมื่อใช้เครื่องวัดขนาดอนุภาค ( Photon correlation spectroscopy) วัดพบว่า มีขนาดอนุภาคเฉลี่ยไม่เกิน 200 นาโนเมตร การกระจายตัวอนุภาคใกล้เคียง โดยรูปร่างของอนุภาคมีลักษณะกลมมีความคงตัวดี จากนั้นนำตำรับครีมพื้นผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมันระดับนาโน มาทดสอบความคงสภาพของตำรับที่สภาวะเร่งด้วยอุณหภูมิแบบร้อนสลับเย็น และที่สภาวะอุณหภูมิต่างๆ 4° C, 25° C และ 45° C นาน 90 วัน พบว่า มีลักษณะทางกายภาพที่ดี ไม่เกิดการแยกชั้น และผลของอุณหภูมิและแสง ต่อความคงตัวของเบต้าแคโรทีนในน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าว พบว่าในทุกสภาวะของตำรับครีมพื้นผสมน้ำมันเยื่อหุ้มเมล็ดฟักข้าวในอนุภาคไขมันระดับนาโนมีเปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่ของเบต้าแคโรทีนสูง
|